ทำความรู้จักโรคพบบ่อย ภูมิแพ้เยื่อบุตาอักเสบ

     ภูมิแพ้เยื่อบุตาอักเสบ (Allergic Conjunctivitis) คือ ภาวะที่เยื่อบุตาขาวและเยื่อบุด้านในของเปลือกตาเกิดการอักเสบจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ โดยมักเกิดจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ขนสัตว์ ควัน หรือแม้แต่การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน

     โรคนี้พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ แพ้ไรฝุ่น หรือผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ 

สารบัญบทความ

    อาการของภูมิแพ้เยื่อบุตาอักเสบ 

         ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ตา มักมีอาการต่อไปนี้

    • คันตามาก 
    • น้ำตาไหล 
    • ตาแดง 
    • ขี้ตาเหนียว โดยเฉพาะตอนเช้า 
    • เปลือกตาบวม 
    • แสบตาหรือรู้สึกระคายเคือง 

         อาการอาจเกิดกับตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง และอาจเป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นเรื้อรัง ขึ้นอยู่กับชนิดของภูมิแพ้และการสัมผัสสารกระตุ้น 

    ชนิดของภูมิแพ้เยื่อบุตาอักเสบ 

      1. Seasonal Allergic Conjunctivitis (SAC)

        • เกิดตามฤดูกาล เช่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน 
        • มักเกิดจากเกสรดอกไม้ หรือหญ้า 

        2. Perennial Allergic Conjunctivitis (PAC)

          • เป็นตลอดปี 
          • มักแพ้ไรฝุ่น เชื้อรา ขนสัตว์ 

          3. Vernal Keratoconjunctivitis (VKC)

          • พบในเด็กวัย 5–20 ปี โดยเฉพาะเพศชาย 
          • เป็นแบบรุนแรงและเรื้อรัง โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน 

          4. Atopic Keratoconjunctivitis (AKC)

          • พบในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง 
          • มักเป็นรุนแรงและเรื้อรัง 

          5. Giant Papillary Conjunctivitis (GPC)

          • เกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์หรือวัตถุแปลกปลอมที่ตา 
          • พบตุ่มนูนใหญ่ใต้เปลือกตาบน 

          การรักษาและการป้องกันภูมิแพ้ตา  

               วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น 

          • หลีกเลี่ยงสารกระตุ้นภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ 
          • ประคบเย็น ช่วยลดอาการคันและบวม 
          • ล้างตาด้วยน้ำเกลือสะอาด (Sterile saline) 
          • ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเป็นประจำ เพื่อลดการระคายเคืองและชะล้างสารก่อภูมิแพ้ 
          • ห้ามขยี้ตา เพราะจะทำให้เยื่อบุตาอักเสบรุนแรงขึ้น 

               การใช้ยารักษา 

               ควรใช้ยาตามคำแนะนำของจักษุแพทย์เท่านั้น เช่น

          • ยาหยอดตาต้านฮีสตามีน (Antihistamine Eye Drops): ลดอาการคันและน้ำตาไหล 
          • ยาหยอดตาลดการอักเสบกลุ่มสเตียรอยด์: ใช้เฉพาะในรายที่อาการรุนแรง และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ 
          • ยาหยอดตาลด mast cell: ช่วยยับยั้งการปล่อยสารฮีสตามีนในระยะยาว 

               ควรไปพบจักษุแพทย์เมื่อใด? 

          • อาการไม่ดีขึ้นภายใน 7 วัน แม้หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นและใช้ยารักษาเบื้องต้นแล้ว 
          • มีขี้ตาสีเขียวหรือสีเหลือง ร่วมกับตาแดง อาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อน 
          • มีอาการตาพร่ามัว ปวดตา หรือไวต่อแสง 
          • เด็กที่มีอาการเรื้อรังหรือมีอาการกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน 

          สรุป  

               ภูมิแพ้เยื่อบุตาอักเสบ เป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่สามารถดูแลและควบคุมอาการได้ด้วยการหลีกเลี่ยงสารกระตุ้น ใช้น้ำตาเทียม และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัด หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม  


          📍เข้ารับการปรึกษาจักษุแพทย์ได้ที่ โรงพยาบาลจักษุ อินซ์ 

          📆 เปิดบริการทุกวัน 08.00-20.00 น.  

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือทำนัด 

          Tel : 02-055-8888

          Line : @inzhospital → inZ Hospital