โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) ปรับรูปหน้าให้ดูละมุน ลดริ้วรอยให้เรียบเนียน 


     โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) คือ การฉีดสารชนิดหนึ่งที่สกัดมาจากแบคทีเรีย แต่ถูกปรับแต่งให้ปลอดภัยในปริมาณที่ใช้ทางการแพทย์และความงาม เวลาเราได้รับการฉีด จะไปช่วยคลายการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่ขยับบ่อย ๆ อย่างเวลายิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้วผ่อนคลายลง ส่งผลให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ ดูจางลง และทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน 

สารบัญบทความ

    การทำงานของ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) 

    • ถูกปรับแต่งให้ปลอดภัย ใช้ได้ทั้งทางการแพทย์และความงาม 
    • ทำงานเฉพาะจุดที่ฉีด ไม่กระทบส่วนอื่นของร่างกาย 
    • ช่วยคลายการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว 
    • ริ้วรอยที่เกิดจากการยิ้ม ขมวดคิ้ว หรือเลิกคิ้วค่อย ๆ จางลง 
    โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

    โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) ทำบริเวณไหนได้บ้าง 

    โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) สามารถทำได้หลายตำแหน่ง ไม่เพียงแค่ด้านความงาม แต่รวมถึงการรักษาทางการแพทย์ได้อีกด้วย 

    • หน้าผาก : ลดรอยย่นเวลายกคิ้ว ทำให้หน้าดูสดใส 
    • หว่างคิ้ว : ลดรอยขมวดคิ้ว หน้าดูไม่ดุ ไม่เครียด 
    • หางตา : ลดริ้วรอยเวลายิ้ม ดูอ่อนวัยขึ้น 
    • กราม : ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม หน้าเรียวเล็กขึ้น 
    • ยกคิ้ว / หางตา : ทำให้ตาดูโต สดใส 
    • น่อง : ลดน่องปูด ขาเรียวเล็ก 
    • รักแร้ : ลดเหงื่อมากผิดปกติ 
    • นอนกัดฟัน / ปวดกราม : ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อกราม 
    • กล้ามเนื้อตากระตุก : ช่วยคลายการเกร็งผิดปกติ 

    ข้อห้ามก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) 

    1. ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด 

    • โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis, Lambert-Eaton) 
    • ภาวะแพ้สาร Botulinum toxin หรือส่วนประกอบในยา 

    2. ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด 

    • ยาแก้แพ้ หรือยากลุ่มสมุนไพรบางชนิด เช่น น้ำมันปลา, Ginkgo biloba ควรปรึกษาแพทย์ก่อน 

    3. ผู้ที่ผิวหนังมีแผล หรือการติดเชื้อบริเวณจุดฉีด 

    • ต้องรอให้แผลหายก่อนฉีด 
    การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

    การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin)

    1. หลีกเลี่ยงการนอนราบหรือก้มหน้าหนัก ๆ อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อไม่ให้ Botulinum toxin กระจายไปผิดจุด 
    2. ไม่ขยี้หรือกดจุดฉีด อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกัน Botulinum toxin เคลื่อนออกจากจุดที่ต้องการ 
    3. หลีกเลี่ยงความร้อนจัด และการออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อลดความเสี่ยงบวม แดง ช้ำ 
    4. งดแอลกอฮอล์ และยาบางชนิด อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสช้ำหรือบวม 
    5. สังเกตอาการผิดปกติ หากมีหนังตาตก, หน้าเบี้ยว, ปวดรุนแรง หรือผื่น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) 

    Q: อายุเท่าไหร่ถึงควรเริ่มโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) ได้ 
    A: ได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แพทย์จะไม่แนะนำ เว้นแต่มีปัญหาทางการแพทย์จริง ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินความเหมาะสม ปริมาณ และตำแหน่งที่ฉีด 

    Q: หญิงตั้งครรภ์ / ให้นมบุตร สามารถฉีดได้ไหม? 
    A: ยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย จึงไม่แนะนำให้ฉีด 

    Q: โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) อยู่ได้นานแค่ไหน? 
    A: ยังไม่เห็นผลทันที จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ ประมาณ 3-5 วัน หลังฉีด และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน อยู่ได้นานถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณ และร่างกายของแต่ละบุคคล 

    Q: โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) อันตรายไหม? 
    A: การฉีดโดยแพทย์และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง ถือว่าปลอดภัย แต่ถ้าใช้ผิดวิธีหรือใช้ยาปลอมก็มีความเสี่ยง 

    Q: ฉีดมาแล้วไม่เห็นผลเป็นเพราะอะไรได้บ้าง ? 
    A: ส่วนใหญ่เกิดจาก ปริมาณ หรือตำแหน่งที่ฉีดไม่เหมาะสม, ภูมิต้านทาน หรือผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจตำแหน่งฉีด ปรับปริมาณ หรือเปลี่ยนยี่ห้อที่เหมาะสม 

    สรุป

         โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) เป็นหัตถการที่ช่วย ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และรักษาทางการแพทย์ได้ และยังช่วยลดเหงื่อ ลดอาการเกร็งกล้ามเนื้อได้อีกด้วย ก่อนทำหัตถการแนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมที่ตรงกับปัญหาในแต่ละบุคคล