แค่นอนกรน..ก็อาจเป็น “ต้อหิน” ได้

         ใครจะคิดว่า “การนอนกรน” ที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยเงียบของโรคที่อาจ “พรากการมองเห็นไปอย่างถาวร” ได้ งานวิจัยทางการแพทย์พบว่า ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA)  ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการนอนกรนเสียงดัง มีความเสี่ยงต่อการเกิด “ต้อหิน” มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า  

สารบัญบทความ

    เพราะอะไรถึงนอนกรน

            การนอนกรนเกิดจากการอุดตันของทางเดินหายใจขณะหลับ ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง และส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ รวมถึงดวงตา

            สาเหตุของการนอนกรน  

    • กล้ามเนื้อคอหย่อนคลายขณะหลับ 
    • โครงสร้างทางเดินหายใจผิดปกติ 
    • มีน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน 
    • ดื่มแอลกอฮอล์/ยานอนหลับ 
    • โรคจมูกอุดตัน หรือภูมิแพ้ 
    • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ 

            หากคุณหรือคนข้างๆ มีอาการกรนเสียงดัง สะดุ้งตื่น หายใจเฮือก หรือเหนื่อยง่าย ไม่ควรมองข้าม ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงตรวจสุขภาพตาเพื่อคัดกรองโรคที่อาจสัมพันธ์กัน เช่น ต้อหิน 

    ทำไมการนอนกรนถึงเพิ่มความเสี่ยงเป็นต้อหิน 

    • ความดันตาเพิ่มขึ้น การขาดออกซิเจนทำให้ความดันในตาสูงขึ้น 
    • การไหลเวียนเลือดผิดปกติเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทตาไม่เพียงพอ 
    • การอักเสบในร่างกายส่งผลต่อสุขภาพของเส้นประสาทตา 
    • ความดันโลหิตผิดปกติกระทบต่อการไหลเวียนเลือดที่ตา 

    ต้อหิน ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

            โรคต้อหิน (Glaucoma) คือ ภาวะที่ขั้วประสาทตาถูกทำลายอย่างช้าๆและทำให้ลานสายตาเสีย  ซึ่งอาจจะสัมพันธ์กับความดันตาที่สูงขึ้น มักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีอาจสูญเสียการมองเห็นถาวร และไม่สามารถรักษาให้กลับมาได้อีก 

    สัญญาณเตือนที่ควรระวัง

            จากการนอนกรน 

    • นอนกรนเสียงดัง หยุดหายใจขณะหลับ 
    • ตื่นมาเหนื่อยล้า ง่วงซึมในเวลากลางวัน 
    • ปวดหัว โดยเฉพาะตอนเช้า 
    • สมาธิไม่ดี หงุดหงิดง่าย 

            จากต้อหิน

    • มองเห็นภาพรอบๆ ไม่ชัด (สูญเสียสายตาด้านข้าง) 
    • เห็นแสงรอบหลอดไฟ 
    • ปวดตา ปวดหัว โดยเฉพาะข้างเดียว 
    • ตาแดง มองเห็นสีรุ้งรอบแสงไฟ 

    แนวทางการป้องกัน

            ลดความเสี่ยงจากการนอนกรน 

    • ควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 
    • เลี่ยงแอลกอฮอล์และยานอนหลับ ก่อนเข้านอน 
    • นอนตะแคงข้าง แทนนอนหงาย 
    • ออกกำลังกายสำหรับกล้ามเนื้อคอและลิ้น 

            ดูแลสุขภาพตา

    • ตรวจตาประจำปี โดยเฉพาะหากมีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน 
    • หลีกเลี่ยงการใช้ตามากเกินไปในที่แสงน้อย 
    • ป้องกันตาจากแสงแดดด้วยแว่นกันแดดที่ดี 

    การตรวจสุขภาพตาที่โรงพยาบาลจักษุ อินซ์

            การตรวจวินิจฉัย  

    • ตรวจวัดความดันตาอย่างละเอียด 
    • ตรวจภาพถ่ายความหนาของขั้วประสาทตา (OCT)  
    • ตรวจลานสายตา  (Visual Field Test) 
    • ตรวจถ่ายภาพจอประสาทตา  
    • ตรวจลูกตาส่วนหน้าด้วยเครื่องตรวจ Slitlamp ophthalmoscope 
    • ตรวจมุมตา  

            แนวทางการรักษา 

    • การรักษาการนอนกรน ร่วมกับแพทย์เฉพาะทาง 
    • การเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การนอน การออกกำลังกาย 
    • ใช้ยาลดความดันตา เลเซอร์ หรือผ่าตัด ควบคุมความดันตา เพื่อชะลอการเสื่อมของเส้นประสาทตา 

    สรุป

            อาการนอนกรนในชีวิตประจำวันอาจกลายเป็นสัญญาณเตือนความเสี่ยงของการเกิดต้อหิน โรคตาที่ไม่ควรมองข้าม การดูแลสุขภาพดวงตาจึงไม่ใช่แค่เรื่องของคนสายตาสั้น สายตายาว หรือโรคตาตามวัย แต่รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ในการดำเนินชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม การตรวจสุขภาพตาประจำปีเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ แต่หากเรารู้ทันก็สามารถป้องกันและรักษาได้ทันเวลาก่อนที่จะสายเกินไป