ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากเกิดปัญหาหรือเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาแม้เพียงเล็กน้อย อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ ซึ่งโรคตาที่พบได้บ่อยหนึ่งในนั้นคือ “ต้อลม” และ “ต้อเนื้อ” โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดด ลม หรือฝุ่นละอองเป็นประจำ
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ วิธีการรักษา และแนวทางการป้องกันต้อลมและต้อเนื้อ เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพดวงตาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ต้อลมคืออะไร
“ต้อลม” หรือตาลม (Pinguecula) เป็นก้อนเนื้อนูนบนเยื่อบุตาขาวข้างกระจกตาดำ มีลักษณะเป็นแผ่นหนาหรือนูนกลมสีขาวเหลือง มักพบทางด้านหัวตามากกว่าหางตา บางครั้งเกิดได้ทั้งสองบริเวณ เมื่อมีการอักเสบจะมีอาการแสบตา เคืองตา และตาแดงในบริเวณที่เป็น
ต้อเนื้อคืออะไร
“ต้อเนื้อ” (Pterygium) ความเสื่อมของเยื่อบุตา จะมีลักษณะเป็นแผ่นรูปสามเหลี่ยมและมีเส้นเลือด ลามเข้าไปที่ตาดำ มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมซึ่งมีฐานอยู่ที่ตาขาวและยอดแหลมยื่นเข้าไปในกระจกตาดำ อาจเกิดได้ทั้งด้านหัวตาและหางตา แต่มักพบบ่อยบริเวณด้านหัวตา
สาเหตุและอาการของต้อลมและต้อเนื้อ
ต้อลมและต้อเนื้อเกิดจากการที่ดวงตาสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) ในแสงแดดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้เยื่อบุตาเกิดการเสื่อมสภาพและก่อตัวเป็นก้อนหรือแผ่นเนื้อหนาบริเวณเยื่อบุตาขาวใกล้กับกระจกตาดำ และด้วยสภาพอากาศของประเทศไทย ที่มีแสงแดดจัดเกือบตลอดทั้งปี จึงทำให้พบผู้ป่วยต้อลมได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มที่ทำงานกลางแจ้งหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแดดจ้าเป็นประจำ
ซึ่งในระยะแรกเริ่ม ผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการใดๆ เพียงแต่จะเห็นเป็นเนื้อเยื่อผิดปกติบริเวณเยื่อบุตาขาวเท่านั้น แต่หากมีการอักเสบหรือเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการแสบตา ระคายเคืองตา น้ำตาไหล และตาแดงรอบบริเวณที่เป็น
การป้องกันการเกิดต้อลมและต้อเนื้อ
- ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ดวงตาถูกแสงแดด ลม ฝุ่นละออง และควัน เนื่องจากทำให้ระคายเคือง และอักเสบได้ง่าย
- ในกรณีที่เป็นต้อลมหรือต้อเนื้ออยู่แล้ว ควรหมั่นสังเกตสี รูปร่าง และขนาดของต้ออยู่เสมอ หากมีการเปลี่ยนแปลงควรปรึกษาจักษุแพทย์
- เมื่ออยู่กลางแจ้งควรสวมแว่นกันแดด เพื่อป้องกันแสงแดดจัด
โดยเลนส์แว่นกันแดดที่มีคุณภาพควรมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เคลือบสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการกรองแสงรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) สารเคลือบดังกล่าวใสไม่มีสี สามารถเคลือบเลนส์แว่นตาได้ทุกชนิด
- สามารถลดความจ้าของแสงแดดลงได้ ซึ่งความเข้มและสีของเลนส์ จะช่วยลดความสว่างเพื่อให้รู้สึกสบายตามากขึ้น
- สำหรับผู้ที่ทำงานอุตสาหกรรมที่มีการเชื่อมโลหะ ซึ่งได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) ในระดับสูงมาก ควรสวมแว่นตากรองรังสีตลอดเวลา และควรใช้หน้ากากพิเศษกรองรังสีขณะปฏิบัติงานทุกครั้ง
วิธีรักษาต้อลมและต้อเนื้อ
การรักษาต้อลมและต้อเนื้อขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค หากต้อมีขนาดเล็กมักไม่เป็นอันตราย การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้อเกิดการอักเสบ จะช่วยลดผลกระทบต่อการมองเห็นได้
- หากต้อยังมีขนาดเล็กและมีการดูแลอย่างเหมาะสม จะช่วยลดโอกาสเกิดอาการผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น แสงแดด ลม และฝุ่น โดยสวมแว่นตาป้องกัน
- หากมีอาการอักเสบ ควรใช้ยาหยอดตาตามแพทย์สั่ง เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ
- ในกรณีของต้อเนื้อที่มีขนาดใหญ่ลุกลามเข้าไปบนกระจกตา และมีการอักเสบเรื้อรัง จักษุแพทย์อาจแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ เพื่อลอกเอาเนื้อเยื่อต้อเนื้อออกจากเยื่อตาและผิวกระจกตา
วิธีรักษาต้อลมและต้อเนื้อ
หลายคนอาจคิดว่าการผ่าตัดเป็นเรื่องน่ากลัวจนปล่อยให้ต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในบริเวณกระจกตาดำ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาว ทั้งที่การลอกต้อเนื้อนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด สามารถใช้ยาชาในการทำการลอกต้อเนื้อได้โดยไม่ต้องดมยาสลบ และผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องนอนพักรักษาในโรงพยาบาล การรักษาต้อลมและต้อเนื้อขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค หากต้อมีขนาดเล็กมักไม่เป็นอันตราย การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้อเกิดการอักเสบ จะช่วยลดผลกระทบต่อการมองเห็นได้
ซึ่งวิธีการผ่าตัดต้อเนื้อมีด้วยกัน 3 วิธี ได้แก่
1.การลอกต้อเนื้อแบบไม่ปลูกเนื้อเยื่อ
จักษุแพทย์จะลอกต้อเนื้อออก และปล่อยให้เนื้อเยื่องอกมาคลุมส่วนที่ลอกออกไปเอง วิธีนี้ใช้เวลาผ่าตัดน้อย แต่มีโอกาสสูงที่ต้อเนื้อจะกลับมาเป็นซ้ำ อัตราการเป็นซ้ำ 24-89%
2.การลอกต้อเนื้อแบบปลูกเนื้อเยื่อโดยใช้เยื่อบุตาขาว
หลังลอกต้อเนื้อออกแล้ว จักษุแพทย์จะนำเยื่อบุตาขาวส่วนที่อยู่ใต้เปลือกตาบนมาปะแทนที่ เพื่อปลูกเนื้อเยื่อในบริเวณที่ถูกลอกออกไป วิธีนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดต้อเนื้อซ้ำจากเดิม 40–50% เหลือเพียง 5–10% เท่านั้น
3.การลอกต้อเนื้อแบบปลูกเนื้อเยื่อโดยใช้เยื่อหุ้มรก
วิธีนี้จะใช้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้เยื่อบุตาขาวได้ เช่น เยื่อบุตามีแผลเป็นมาก หรือผู้ป่วยที่เป็นต้อหิน จำเป็นต้องเก็บเยื่อบุตาขาวไว้สำหรับการผ่าตัดในอนาคต
การผ่าตัดต้อเนื้อ จำเป็นเมื่อ…
- มีการอักเสบรุนแรงหรือมีการอักเสบบ่อย
- ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
- ส่งผลต่อค่าสายตา ทำให้เกิดสายตาเอียงมากขึ้น
- เพื่อความสวยงามและความมั่นใจในบุคลิกภาพ
การดูแลหลังผ่าตัดลอกต้อเนื้อ
การผ่าตัดลอกต้อเนื้อเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ซึ่งหลังการผ่าตัดแพทย์จะปิดตาแน่นไว้ 1 วัน และสามารถเปิดตาได้ในวันถัดไป ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่ควรระมัดระวังในช่วงแรก และต้องดูแลตนเองตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ห้ามให้น้ำเข้าตาเป็นเวลา 7-10 วัน และห้ามขยี้ตาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ลม ฝุ่น และควัน เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
- หยอดยาอย่างต่อเนื่อง ตามแพทย์สั่ง
สรุป
ต้อเนื้อและต้อลมเป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดด ลม และฝุ่นอยู่เป็นประจำ แม้ในระยะแรกจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้ อาจทำให้เกิดการอักเสบและส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาวได้ การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่ระยะแรก จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อชะลอการลุกลามและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา
📍เข้ารับการปรึกษาจักษุแพทย์ได้ที่ โรงพยาบาลจักษุ อินซ์
📆 เปิดบริการทุกวัน 08.00-20.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือทำนัด
Tel : 02-055-8888
Line : @inzhospital → inZ Hospital