แสบตา เคืองตา ตาแดง อาจเป็น “ต้อเนื้อ” 

     เคยรู้สึกแสบตา เคืองตา ตาแดง หรือมองเห็นไม่ชัดบ้างไหม? หลายคนอาจคิดว่าอาการเหล่านี้เป็นเพียงอาการระคายเคืองเล็กๆ น้อยๆ แต่รู้ไหมว่า อาจเป็นสัญญาณของ “ต้อเนื้อ” ได้! 

     แม้โรคนี้จะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ในความเป็นจริง วัยรุ่นก็เสี่ยงเป็นได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องเผชิญกับแสงแดดจ้า ฝุ่นควัน ลมแรง และมลภาวะเป็นประจำ เมื่อดวงตาถูกกระตุ้นซ้ำๆ จะทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบเรื้อรัง จนเกิดความเสื่อมของเยื่อบุตาขาว มีเนื้อเยื่อคล้ายรูปสามเหลี่ยมขึ้นบริเวณตาขาว และลามเข้าสู่ตาดำ ส่งผลให้การมองเห็นแย่ลง 

     แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นต้อเนื้อ?  

สารบัญ

    ต้อเนื้อ มีสาเหตุมาจากอะไร? 

        ต้อเนื้อเกิดจากการระคายเคืองเรื้อรังของเยื่อบุตา ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นหลัก ดังนี้

    • แสงแดดและรังสียูวี (UV light exposure) 
      แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการเกิดต้อเนื้อ โดยเฉพาะรังสียูวีที่สามารถกระตุ้นการหนาตัวของเยื่อบุตาและทำให้เกิดการลุกลามของต้อเนื้อ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น เกษตรกร นักก่อสร้าง หรือชาวประมง มีโอกาสเกิดต้อเนื้อมากกว่าคนทั่วไป 
    • ลม ฝุ่น และควัน (Environmental irritants) 
      สิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นละออง ควันจากมลภาวะ หรือแม้แต่ลมแรง สามารถกระตุ้นให้เยื่อบุตาเกิดการอักเสบและแห้งได้ การสัมผัสสารระคายเคืองเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความผิดปกติของเนื้อเยื่อจนเกิดเป็นต้อเนื้อได้ 
    • ภาวะตาแห้งเรื้อรัง (Chronic Dry Eye Syndrome) 
      น้ำตาทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองต่อดวงตา เมื่อตาแห้งเรื้อรัง เยื่อบุตาจะถูกกระตุ้นให้หนาตัวขึ้น ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่นำไปสู่การเกิดต้อเนื้อ 
    • พันธุกรรม (Genetic Factors) 
      มีหลักฐานว่าผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อเนื้อ อาจมีแนวโน้มเป็นต้อเนื้อง่ายกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดเป็นเวลานาน

    ใครที่เสี่ยงเป็นต้อเนื้อ?

         หลายคนเข้าใจผิดว่าต้อเนื้อเกิดเฉพาะในผู้สูงอายุ แต่ความจริงแล้ว วัยรุ่นและคนวัยทำงานก็สามารถเป็นได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้   

    • ผู้ที่ต้องออกแดดบ่อย เช่น เกษตรกร ชาวประมง นักกีฬา ผู้ที่ทำงานก่อสร้าง หรือพนักงานที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นประจำ 
    • ผู้ที่ใช้สายตากลางแจ้งเป็นเวลานาน เช่น คนที่ขับรถระยะไกล หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญแสงแดดแรง 
    • ผู้ที่อยู่ในพื้นที่มีฝุ่น ควัน และมลภาวะสูง เช่น คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ หรือทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสารเคมีระคายเคืองต่อดวงตา 
    • คนที่มีภาวะตาแห้งเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการใช้สายตานาน ๆ เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานโดยไม่พักสายตา 

    อาการของต้อเนื้อเป็นอย่างไร? มองเห็นภาพเป็นแบบไหน? 

    อาการต้อเนื้อ

         ต้อเนื้อมีพัฒนาการเป็นระยะ ๆ โดยมีอาการ ดังนี้

    • ระยะเริ่มต้น 
      • มีเนื้อเยื่อสีขาวหรือชมพูขึ้นบริเวณตาขาวด้านในหรือนอกของดวงตา 
      • ตาแดงเล็กน้อย หรืออาจมีอาการระคายเคืองเล็กน้อย 
    • ระยะปานกลาง 
      • เนื้อเยื่อเริ่มขยายตัวเข้าไปใกล้กระจกตา ทำให้เกิดอาการแสบตา คันตา หรือเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา 
      • เริ่มมีอาการตามัวเล็กน้อย หากต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในกระจกตาบริเวณกึ่งกลางตาดำ 
    • ระยะรุนแรง 
      • ต้อเนื้อลุกลามเข้าไปกลางตาดำ ทำให้การมองเห็นพร่ามัว 
      • อาจเกิดอาการแพ้แสง น้ำตาไหลบ่อย และมีอาการระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง 

         ภาพที่ผู้ป่วยอาจเห็น

    • มองเห็นไม่คมชัด เหมือนมีม่านบาง ๆ หรือฝ้าบังสายตา 
    • ตอบสนองต่อแสงไวขึ้น โดยเฉพาะเวลาขับรถตอนกลางคืน 

    แนวทางการรักษาต้อเนื้อ 

         การรักษาเบื้องต้น 

    • ใส่แว่นกันแดดที่มีเลนส์ป้องกันรังสียูวี เมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง เพื่อลดความเสี่ยงของต้อเนื้อ 
    • ใช้น้ำตาเทียม เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับดวงตา ลดการระคายเคืองและอาการตาแห้ง 
    • เลี่ยงฝุ่น ควัน และสารก่อระคายเคือง โดยสวมแว่นป้องกันตาในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยง 

         การรักษาด้วยการผ่าตัด

    • ผ่าตัดต้อเนื้อ หรือลอกต้อเนื้อ 
      • แนะนำในกรณีที่ต้อเนื้อขยายเข้าไปในกระจกตาและกระทบต่อการมองเห็น 
      • การผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทางจักษุช่วยลดโอกาสการเกิดซ้ำได้ 
      • สามารถทำร่วมกับการปลูกถ่ายเยื่อบุตาเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
    • ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดต้อเนื้อ หรือลอกต้อเนื้อ
      • ️ลุกลามบดบังการมองเห็น 
      • ทำให้สายตาเองมาก 
      • การอักเสบเป็น ๆ หาย ๆ 
      • เสริมบุคลิกภาพ ความมั่นใจ 

    สรุป

         หากมีอาการแสบตา เคืองตา ตาแดง หรือสังเกตแล้วพบว่า มีเนื้อเยื่อสีขาวขุ่นหรือแดงขึ้นที่บริเวณตาขาวใกล้กับหัวตาหรือมองเห็นไม่ชัด และอาการยังคงอยู่หรือรุนแรงขึ้น ควรเข้าพบเฉพาะทางจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย หากต้อเนื้อยังมีขนาดเล็กและไม่รบกวนการมองเห็น อาจใช้ยาหยอดตาเพื่อลดการอักเสบ แต่หากลุกลามจนบดบังการมองเห็น จักษุแพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเอาต้อเนื้อออก ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาว