ต้อ โรคตาอันตรายใกล้ตัว ทำความรู้จักต้อทั้ง 4 ชนิด พร้อมวิธีรักษา

หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโรค ต้อ แต่อาจไม่รู้ว่า ต้อ มีถึง 4 ชนิด โดยแต่ละชนิดมีลักษณะ สาเหตุ อาการ และการรักษาที่แตกต่างกันไป มากไปกว่านั้นหลายคนอาจคิดว่า โรคต้อเป็นโรคที่เกิดกับผู้สูงวัยเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว ต้อบางชนิดสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวัย มาทำความรู้จัก 4 โรคต้อและเรียนรู้วิธีป้องกันการเกิดต้อได้ในบทความนี้

สารบัญบทความ

    โรคต้อ คืออะไร 

    ตาเป็นต้อ คือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในดวงตาของเรา สามารถแบ่งชนิดของต้อออกได้เป็น 4 ชนิด ได้แก่ ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก และต้อหิน โดยต้อที่ตาแต่ละชนิดมีสาเหตุการเกิด อาการ และวิธีรักษาที่แตกต่างกัน  มาทำความรู้จักกับต้อทั้ง 4 ชนิด

    ทำความรู้จัก ต้อทั้ง 4 ชนิด รู้ทันสาเหตุ และอาการ  

    อย่างที่ได้กล่าวข้างต้นว่า ต้อแต่ละชนิดมีลักษณะอาการ สาเหตุการเกิด วิธีรักษาที่แตกต่างกันไป มาดูกันเลยว่า ต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม ต้อเนื้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

    ต้อกระจก

    ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น เลนส์ตายิ่งเสื่อมสภาพลง อาจทำให้เกิดความขุ่นมัวที่เลนส์แก้วตาหรือที่เรียกว่า โรค ‘ต้อกระจก’ ซึ่งเป็นโรคที่มักพบในกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป 

    ตาต้อกระจก คืออะไร
    ขอบคุณรูปภาพจาก : www.aao.org
    • สาเหตุ 

    นอกจากปัจจัยความเสื่อมสภาพของเลนส์ตาจากอายุที่เพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดต้อกระจกแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น ต้อกระจกโดยกำเนิด เผชิญกับรังสีอัลตราไวโอเลต การใช้ยาหรือสามารถเกิดจากการประสบอุบัติเหตุที่ดวงตา เป็นต้น

    • อาการ 

    ลักษณะอาการของต้อกระจก สามารถสังเกตได้จากลักษณะขุ่นมัวที่ตาดำ ทำให้การมองเห็นพร่ามัวคล้ายกับมีหมอกควันมาบดบัง 

    • การรักษา
      • หากอาการยังไม่รุงแรงสามารถสวมแว่นสายตา เพื่อการมองเห็นที่ชัดขึ้น
      • สลายต้อกระจกด้วยเครื่องสลายต้อ
      • การเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE)

    ต้อหิน

    ต้อหิน เป็นต้อชนิดที่อันตราย เนื่องจากเป็นชนิดที่ไม่แสดงอาการให้เห็นในระยะแรก หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง มีโอกาสที่จะสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้อย่างถาวร 

    ตาเป็นต้อหิน คืออะไร
    • สาเหตุ 

    ต้อหินเกิดจากความดันในลูกตาสูง ทำให้ขั้วประสาทตาถูกทำลายและนำไปสู่การสูญเสียลานสายตาและการมองเห็นในที่สุด โดยปัจจัยที่อาจทำให้เกิดต้อหินมีด้วยกันอยู่หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุ กรรมพันธุ์ การใช้ยาหรือเกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคตาอื่น ๆ

    • อาการ 

    ลักษณะอาการของต้อหิน จะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น หากปล่อยไว้ การมองเห็นถูกบีบจนอาจตาบอด

    • การรักษา 

    โรคต้อหิน ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่สามารถชะลอการพัฒนาความรุนแรงด้วยการลดความดันในลูกตา สามารถรักษาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

      • การใช้ยาหยอดหรือทานยาลดความดันในลูกตา
      • การใช้เลเซอร์
      • การผ่าตัดต้อหิน

    ต้อลม

    ต้อลม สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่ใครหลายคนคิด ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สูงวัยก็สามารถเกิดอาการตาเป็นต้อได้ โดยต้อลมเป็นโรคที่ไม่เป็นอันตรายต่อการมองเห็นของเรา อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดต้อลมหรือรอยนูนสีเหลืองที่เยื่อบุตาขาวแล้ว จะไม่สามารถจางหายไปได้เอง หากต้องการนำต้อลมออก สามารถนำออกด้วยวิธีการผ่าตัดเท่านั้น

    ต้อลม คืออะไร
    ขอบคุณรูปภาพจาก : www.aao.org
    • สาเหตุ 

    รอยนูนสีเหลืองที่เยื่อบุตาขาวหรือตาต้อลมเกิดจากการที่ดวงตาเผชิญกับแสงแดดหรือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ฝุ่น ควัน มลภาวะเป็นระยะเวลานานอยู่เป็นประจำ

    • อาการ 

    ต้อลม อาการ มีเพียงลักษณะการเกิดเป็นรอยนูนสีเหลืองบริเวณตาขาว มักพบในกลุ่มคนที่ทำงานในพื้นที่กลางแจ้ง อาจเกิดอาการบวมแดง ระคายเคืองตาร่วมด้วย

    • การรักษา
      • รักษาต้อลมด้วยตนเอง ยับยั้งการพัฒนาความรุนแรง โดยการสวมแว่นกันรังสียูวีเมื่อต้องออกที่แจ้ง
      • รักษาจากจักษุแพทย์ หากมีอาการบวมแดง ระคายเคือง รักษาโดยการใช้ยาหยอด และในกรณีที่ต้อลมกระทบการมองเห็น สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด 

    ต้อเนื้อ

    ต้อเนื้อ ภัยที่อาจรบกวนการมองเห็นของเรา ซึ่งพัฒนามาจากการเป็นต้อลมที่ปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่รักษาหรือไม่หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ตาเป็นต้อ ทำให้ต้อเนื้อลุกลาม ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของเราได้ โดยสาเหตุการเกิดต้อเนื้อคล้ายกับสาเหตุของต้อลม 

    ต้อเนื้อ คืออะไร
    ขอบคุณรูปภาพจาก : www.aao.org
    • สาเหตุ 

    การเกิดต้อเนื้อคล้ายกับสาเหตุของต้อลม นั่นก็คือ การที่ดวงตาของเราเผชิญกับแสงแดดหรือรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นระยะเวลานานอยู่เป็นประจำ รวมถึงเผชิญกับฝุ่น ควันและมลภาวะ แต่เมื่อเกิดอาการระคายเคืองหรือต้อลมอักเสบเรื้อรัง ต้อลมจะพัฒนาความรุนแรงกลายเป็นต้อเนื้อ

    • อาการ 

    ต้อเนื้ออาการ มีลักษณะเป็นแผ่นเนื้อเยื่อสีแดงอ่อนบริเวณเยื่อบุตาและมักเกิดบริเวณหัวตามากกว่าหางตา สามารถลุกลามเข้าไปในบริเวณกระจกตาดำ รวมถึงเกิดอาการตาแดง ระคายเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล และหากเนื้อเยื่อลุกลามเข้าไปบริเวณกระจกตาดำ อาจดึงรั้งกระจกตาจนผิดรูป ทำให้เกิดปัญหาสายตาอย่างสายตาเอียงได้ 

    • การรักษา
      • รักษาด้วยยาหยอด ในระยะที่ต้อเนื้อยังไม่รุนแรงหรือยังไม่ลุกลามเข้าตาดำ
      • รักษาด้วยการผ่าตัด โดยมีด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่ การผ่าตัดลอกต้อเนื้อออก และการผ่าตัดลอกต้อเนื้อพร้อมปลูกเนื้อเยื่อบุตา

    การตรวจวินิจฉัย 4 โรคต้อ 

    การตรวจวินิจฉัยโรคต้อ ไม่ว่าจะเป็นต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก หรือต้อหิน สามารถตรวจเบื้องต้น ด้วยเครื่องมือ slit lamp เพื่อตรวจดูความผิดปกติภายในดวงตา และแพทย์จะมีการถามประวัติ อาการ และพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคเหล่านั้น โดยมีขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมแตกต่างกันไปตามชนิดของต้อ เช่น การวัดความดันในลูกตา การตรวจมุมตาสำหรับต้อหิน การตรวจขั้วประสาทตา เป็นต้น

    การดูแลสุขภาพดวงตาให้ห่างไกลจากการเป็นต้อ 

    ต้อชนิดต่าง ๆ มีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกัน การป้องกันหรือการหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดโรค จึงแตกต่างกันไปตามชนิดของต้อ 

    การป้องกันการเป็นต้อลม และต้อเนื้อ สามารถทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการเผชิญกับรังสียูวีจากแสงแดด ฝุ่น ควัน และมลภาวะเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง หากต้องทำงานในที่แจ้ง ควรสวมแว่นหรืออุปกรณ์ป้องกันดวงตา เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB ซึ่งถือว่า เป็นการชะลอการเกิดโรคต้อกระจกได้เช่นกัน 

    นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง สามารถชะลอตาเป็นต้อกระจกได้ เช่น 

    • งดการสูบบุหรี่
    • ควบคุมความดันและระดับปริมาณน้ำตาลในเลือด
    • ควบคุมปริมาณแอลกอฮอล์

    ส่วนในกรณีของต้อหินที่เกิดจากความดันในลูกตาสูง สามารถป้องกันด้วยการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี หากพบความผิดปกติหรือความเสี่ยงการเป็นต้อหิน จะสามารถยับยั้งการพัฒนาความรุนแรงไว้ได้

    FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคต้อ 

    คำถามพบบ่อยเกี่ยวโรคต้อ ไม่ว่าจะเป็น โรคต้ออันตรายหรือไม่ ? ปล่อยทิ้งไว้ ไม่รักษา จะเป็นอะไรไหม ? inZ Hospital รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว

    ตาเป็นต้อทำเลสิกได้ไหม 

    ในกรณีที่เป็นต้อเนื้อหรือต้อลม หากต้อลมมีอาการไม่รุนแรง ต้อเนื้อมีขนาดเล็ก สามารถทำเลสิกได้ แต่ในกรณีที่เป็นต้อกระจกหรือต้อหิน นับว่าเป็นข้อจำกัดในการทำเลสิก ทั้งนี้ควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อตรวจประเมิน และรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม

    ตาเป็นต้ออันตรายหรือไม่

    เป็นต้อที่ตา อันตรายหรือไม่ ? ความอันตรายของต้อแต่ละชนิด มีความแตกต่างกัน

    • ต้อลม มีเพียงอาการก้อนสีเหลืองบริเวณตาขาว ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อการมองเห็น
    • ต้อเนื้อ หากอยู่ในระดับไม่รุนแรง จะไม่เป็นอันตราย แต่ในกรณีรุนแรง อาจลุกลามเข้าตาดำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการมองเห็นได้ 
    • ต้อกระจก ทำให้การมองเห็นหรือตาพร่ามัว สามารถแก้ได้ด้วยการผ่าตัด
    • ต้อหิน นับว่า เป็นต้อชนิดที่อันตรายที่สุด เนื่องจากไม่แสดงอาการให้เห็น สามารถนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้ 

    ตาเป็นต้อ หากปล่อยทิ้งไว้ เป็นอะไรไหม

    กรณีที่ตาเป็นต้อลม และต้อเนื้อในระยะไม่รุนแรงหรือไม่รบกวนการมองเห็น ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่หากตาเป็นต้อกระจกหรือต้อหิน ซึ่งเป็นต้อที่รบกวนการมองเห็น ควรเข้ารับการรักษาก่อนจะสาย ทั้งนี้ไม่ว่า ตาเป็นต้อชนิดใด ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัย ดูแลยับยั้งไม่ให้พัฒนาความรุนแรง

    ต้อชนิดไหน เป็นอันตรายต่อการมองเห็นมากที่สุด 

    ต้อหิน เป็นต้อชนิดที่อันตรายที่สุด เกิดจากความดันในลูกตาสูง ทำให้ขั้วประสาทตาถูกทำลาย ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอด โดยต้อหิน มักไม่แสดงอาการเตือน กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัว อาจอยู่ในระยะรุนแรงแล้ว

    ข้อสรุป 4 โรคต้อ 

    ต้อทั้ง 4 ชนิด มีสาเหตุการเกิด อาการ วิธีรักษาที่แตกต่างกัน สามารถป้องกันการเกิดโรคต้อ ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิด เช่น สวมแว่นตากันรังสียูวีเมื่อออกที่แจ้ง การงดสูบบุหรี่ รวมถึงการตรวจสุขภาพตาอยู่เป็นประจำทุกปี เป็นต้น ทั้งนี้ หากสังเกตเห็นอาการความผิดปกติ ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อประเมินความรุนแรง และรับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง

    ใครที่กำลังประสบปัญหาตาเป็นต้อหรือสังเกตเห็นความผิดปกติ สามารถวางใจให้  inZ Hospital ช่วยดูแลปัญหาดังกล่าว inZ Hospital เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางเกี่ยวกับดวงตาที่มีบริการครบวงจร มีมาตรฐาน สะอาด เครื่องมือทันสมัย ดำเนินให้คำปรึกษา และให้การรักษา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องตาโดยเฉพาะ

    เอกสารอ้างอิง

    What Foods To Avoid If You Have Glaucoma. (n.d.). coastaleyesurgeons. https://www.coastaleyesurgeons.com/blog/what-foods-to-avoid-if-you-have-glaucoma